เมนู

เดินมา เขามองดูบ่อน้ำนั้น ก็รู้ว่ามีน้ำ แต่จะสัมผัสด้วยกายไม่ได้ ฉันใด
ดูก่อนอาวุโส ข้อว่า ภพดับเป็นนิพพาน ผมเห็นดีแล้วด้วยปัญญาอัน
ชอบตามความเป็นจริง แต่ว่าผมให้ใช่พระอรหันตขีณาสพ ฉันนั้น
เหมือนกัน.
[275] เมื่อท่านพระนารทะกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอานนท์
ได้กล่าวกะท่านพระปวิฏฐะว่า ดูก่อนท่านปวิฏฐะ ท่านชอบพูดอย่างนี้
ท่านได้พูดอะไรกะท่านนารทะบ้าง พระปวิฏฐะกล่าวว่า ท่านอานนท์
ผมพูดอย่างนี้ ไม่ได้พูดอะไรกะท่านนารทะ นอกจากกัลยาณธรรม
นอกจากกุศลธรรม.
จบโกสัมพีสูตรที่ 8

อรรถกถาโกสัมพีสูตรที่ 8



ในโกสัมพีสูตรที่ 8 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อญฺญตฺเรว ความว่า ก็คนบางคนเชื่อต่อผู้อื่น ย่อมยึดถือ
ว่า ข้อที่ผู้นี้กล่าวนั้นเป็นความจริง ย่อมชอบใจเหตุที่ผู้อื่นนั่งคิดอยู่ เขา
ย่อมยึดถือตามความชอบใจว่า นั่นมีได้ คนหนึ่งยึดถือตามที่เล่ากันมาว่า
เรื่องเล่าลืออย่างนี้มีมานาน นั่นเป็นความจริง. เมื่อคนอื่นตรึกอยู่ ย่อม
ปรากฏเหตุเป็นอย่างหนึ่ง เขายึดถือโดยตรึกตามอาการว่า นั่นมิได้ ย่อม
ทนต่อทิฏฐิอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นแก่อีกคนหนึ่ง ผู้คิดเพ่งพินิจถึงเหตุอยู่
เขาย่อมยึดถือด้วยความทนต่อการเพ่งพินิจด้วยทิฏฐิว่า นั่นมีได้. แต่
พระเถระปฏิเสธเหตุทั้ง 5 เหล่านี้ เมื่อถามถึงภาวะที่แทงตลอดด้วยญาณ